top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนtomathaiinfo

เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

อัปเดตเมื่อ 6 มิ.ย.

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 14.00 น. ณ กระทรวงแรงงาน กรุงเทพมหานคร นายชินวัฒน์ ใจกุศลสูงยิ่ง นายกสมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศ (สจต.) นำคณะที่ปรึกษาและคณะกรรมการสมาคมฯ เข้าแสดงความยินดีแก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมทั้งเรียนปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับเรื่องแรงงานไทยในต่างประเทศ โดยมี นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงานเข้าร่วม สมาคมฯได้มอบหมายให้ นายรังสรรค์ อนันต์ ประธานคณะที่ปรึกษาสมาคมฯ เป็นผู้นำเรียนปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะของสมาคม ซึ่งมีด้วยกัน 5 หัวข้อ ได้แก่ 


1. การปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 และระเบียบกระทรวงแรงงาน ระเบียบกรมการจัดหางาน ที่ล้าสมัย เป็นอุปสรรคไม่เอื้ออำนวยต่อการจัดส่ง เช่น ระเบียบเกี่ยวกับการโฆษณา ระเบียบเกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าบริการและค่าใช้จ่าย ระเบียบเกี่ยวกับการออก จต.3 ระเบียบเกี่ยวกับศูนย์ทะเบียนคนหางาน เป็นต้น

2. การขยายตลาดแรงงาน

2.1 ตลาดแรงงานเก่า เช่น ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า มาเลเซีย เกาหลี ให้ทุก สนร. วางแผนในการขยายตำแหน่งงาน โดยความร่วมมือของสมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศ มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน

2.2 ตลาดแรงงานใหม่ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา ซาอุดิอาระเบีย โปรตุเกส ฮังการี โปแลนด์ เป็นต้น ควรพบปะของทาง สถานทูตของประเทศนั้นๆเพื่อผลักดันให้มีการจัดส่งที่เป็นรูปธรรมให้ได้

3. การยกระดับภาษาและฝีมือแรงงาน

3.1 ฝึกอบรมช่างฝีมือสาขาต่างๆให้สามารถรองรับความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศและต่างประเทศ

3.2 อบรมด้านภาษา เช่น จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี ให้แก่ผู้สนใจ

3.3 ให้สถานทดสอบฝีมือสามารถทำการฝึกอบรมสาขาช่างหรือภาษาต่างๆได้

4. การป้องกันและปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงคนหางานทางสื่อออนไลน์รูปแบบต่างๆ รวมทั้งกลุ่มบุคคลที่จัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวันออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น

5. เร่งเจรจากับท้องถิ่นเมืองต่างๆของประเทศเกาหลีที่ประสงค์จะว่าจ้างแรงงานไทยไปทำงานภาคเกษตรตามฤดูกาลด้วยวีซ่า E8 ทำงานปีละ 5-8 เดือน ซึ่งสามารถรองรับให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยที่กลับจากประเทศอิสราเอลได้ เนื่องจากอัตราค่าจ้างพอๆกัน


และนอกจากนี้ยังได้หารือถึงการช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในอิสราเอลอีกด้วย ซึ่งนายสุรชัย หวังวัฒนานุกูล นายกสมาคมกิตติมศักดิ์ ได้กล่าวเสริมว่าปัจจุบันประเทศกรีก มีความต้องการแรงงานจำนวนกว่า 2,000 ตำแหน่ง งานดังกล่าวเป็นงานด้านเกษตรกรรม ซึ่งประเทศกรีกมีลักษณะพื้นที่ที่คล้ายคลึงกับประเทศอิสราเอล จึงขอให้ทางรัฐบาลช่วยดำเนินการเรื่องวีซ่าการทำงานนี้ให้แก่กลุ่มแรงงานที่ได้รับผลกระทบนี้

ในช่วงท้าย คณะที่ปรึกษาและกรรมการสมาคม ได้ร่วมสนทนาปัญหาเรื่องแรงงานอื่นๆ เพิ่มเติมกับคณะท่านรัฐมนตรีฯ เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ จะนำการหารือทั้งหมดนี้ไปสู่การยกระดับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อไป




อ้างอิงจากบทความของ อาชาไนย ประมวลวิจิตร : สื่อมวลชน/ผู้สื่อข่าว:รง.๑๓๙MOL.

Comments


bottom of page